สำนักงาน คปภ. เสริมสร้างองค์ความรู้บุคลากรด้านกฎหมาย “ปรับเป็นพินัย-ประกันภัยทางทะเล”

0

สำนักงาน คปภ. เสริมสร้างองค์ความรู้บุคลากรด้านกฎหมาย “ปรับเป็นพินัย-ประกันภัยทางทะเล”


วันนี้ (3 ตุลาคม 2567) นายชูฉัตร ประมูลผล
เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.)
เป็นประธานเปิดโครงการจัดอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565
กฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว และร่างพระราชบัญญัติประกันภัยทางทะเล พ.ศ. ….
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-4 ตุลาคม 2567 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ


โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน คปภ.
ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเกี่ยวกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565
กฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว และร่างพระราชบัญญัติประกันภัยทางทะเล พ.ศ. ….
ซึ่งกำหนดสิทธิหน้าที่และความรับผิดของคู่สัญญาตามกฎหมาย โดยมีรากฐานแนวคิดมาจากกฎหมายประกันภัยทางทะเลของอังกฤษอันเป็นหลักการสากลที่นานาประเทศใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนากฎหมายประกันภัยและกฎหมายประกันภัยทางทะเล และสำนักงาน คปภ. ได้นำมาเป็นต้นแบบในการพัฒนากฎหมายการประกันภัยทางทะเลของประเทศไทย เช่นเดียวกัน โดยร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว
และปัจจุบันอยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณา ให้ความเห็นชอบก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติต่อไปในโอกาสนี้ เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า สำนักงาน คปภ.มีเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพของของบุคลากร รูปแบบและกระบวนการทำงานให้มีความพร้อม คล่องตัวและปรับตัวได้เท่าทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ภายใต้ความมุ่งหมายดังกล่าวจึงได้ส่งเสริมให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในด้านต่าง ๆ เข้าร่วมอบรมหลักสูตรอบรมความรู้ที่สายงานกำหนดหรือหน่วยงานภายนอกได้จัดขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะและศักยภาพของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้สามารถปฏิบัติภารกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สำหรับการอบรมครั้งนี้แบ่งเป็น 2 เรื่องหลัก ๆ คือ เรื่องแรก เป็นการอบรมเกี่ยวกับหลักการของกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อแก้ปัญหาภาวะกฎหมายอาญามีมากเกินจำเป็นหรือกฎหมายเฟ้อ (Over Criminalization) อันเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่ต้องการกำหนดโทษอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรงเท่านั้น
โดยกฎหมายดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ความผิดทางอาญาที่มีโทษปรับสถานเดียว ตามพระราชบัญญัติต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงกฎหมายที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน คปภ. อาทิ พ.ร.บ. คปภ. พ.ร.บ. ประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย และ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กลายเป็นโทษที่ต้องดำเนินการปรับเป็นพินัย ซึ่งไม่ใช่โทษทางอาญาที่มีประวัติอาชญากรรมติดตัวอีกต่อไป โดยปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริง การรวบรวมพยานหลักฐาน การชี้แจงหรือแก้ข้อกล่าวหา การชำระค่าปรับเป็นพินัยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงระเบียบปฏิบัติในการปรับเป็นพินัย ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญในการพิจารณาและกำหนดมาตรการลงโทษสำหรับความผิดที่มีโทษปรับสถานเดียว
ทั้งนี้ การอบรมกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัยในครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้รับเกียรติเป็นอย่างสูงจากวิทยากรของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดทำกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัยโดยตรง มาบรรยายให้ความรู้เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. มีความรู้ความเข้าใจและสามารถใช้กฎหมายดังกล่าวได้อย่างมั่นใจและเกิดประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเรื่องที่สอง เป็นการอบรมเกี่ยวกับหลักการสำคัญของร่างพระราชบัญญัติประกันภัยทางทะเล สำนักงาน คปภ. ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการกำหนดมาตรฐานของธุรกิจประกันภัยทางทะเลให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากลเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันภัยทางทะเลของไทยให้เติบโตขึ้นและสามารถแข่งขันในเวทีการค้าระหว่างประเทศได้
“การจัดอบรมครั้งนี้ จึงนับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายทั้ง 2
เรื่องข้างต้น เพื่อเพิ่มศักยภาพให้พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ. ที่ต้องปฏิบัติงานในส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบแนวทางในการบังคับใช้และการดำเนินการตามพระราชบัญญัติดังกล่าวไปในแนวทางเดียวกัน มีมาตรฐาน และเป็นธรรมอันจะส่งผลให้การกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยให้มีประสิทธิภาพและอยู่ภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่ดีเป็นสำคัญ” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *