กระทรวงพาณิชย์ ประกาศความสำเร็จ “กุ้งก้ามกรามบางแพ” สินค้า GI จังหวัดราชบุรี สร้างรายได้โตต่อเนื่องในปี 2568
กระทรวงพาณิชย์ ประกาศความสำเร็จ “กุ้งก้ามกรามบางแพ” สินค้า GI จังหวัดราชบุรี สร้างรายได้โตต่อเนื่องในปี 2568
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ประกาศความสำเร็จของ “กุ้งก้ามกรามบางแพ” สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัดราชบุรี ที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร และผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยในปี 2568 ตอกย้ำความสำเร็จของนโยบายส่งเสริมสินค้า GI ไทยให้เป็น “สินค้าคุณค่าเพิ่ม สร้างรายได้อย่างยั่งยืน” ตามนโยบาย Quick Big Win ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์
นายธรณินทร์ บรรยงวรพินิจ พาณิชย์จังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า กุ้งก้ามกรามบางแพเป็นสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เป็นลำดับที่ 5 ของจังหวัดราชบุรี (ถัดจาก 1. มะพร้าวน้ำหอมราชบุรี 2. สับปะรดบ้านคา 3. โอ่งมังกรราชบุรี และ 4. ไชโป้วโพธาราม)
ซึ่งกุ้งก้ามกรามบางแพ เพาะเลี้ยงในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางแพ อำเภอดำเนินสะดวก และอำเภอโพธาราม
โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 ประเทศจีนอนุมัติให้นำเข้ากุ้งก้ามกรามจากไทย ส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น และในปี 2568 สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 2,570 ล้านบาท
“กุ้งก้ามกรามบางแพ” ถือเป็นหนึ่งในสินค้า GI ที่สะท้อนอัตลักษณ์ของพื้นที่จังหวัดราชบุรี ด้วยเอกลักษณ์ของเนื้อกุ้งแน่น หวาน สด มีรสชาติโดดเด่นจากสภาพแวดล้อมธรรมชาติของลุ่มน้ำแม่กลอง ทำให้ได้รับความนิยมสูงจากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคระดับพรีเมียมและภาคธุรกิจร้านอาหาร
ในปี 2568 ที่ผ่านมา “กุ้งก้ามกรามบางแพ” สามารถขยายตลาดจำหน่ายได้เพิ่มขึ้นกว่า 25% จากปีก่อนหน้า ทั้งในช่องทางตลาดพรีเมี่ยม โรงแรม ร้านอาหาร รวมถึงช่องทางออนไลน์
กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาและต่อยอดสินค้า GI อย่างครบวงจร ตั้งแต่การยกระดับมาตรฐานการผลิต การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การสร้างตราสัญลักษณ์รับรอง GI ไปจนถึงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อผลักดันให้ “กุ้งก้ามกรามบางแพ” ก้าวสู่ตลาดสากลในอนาคต “กุ้งก้ามกรามบางแพ” คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจของจังหวัดราชบุรี และเป็นตัวอย่างของการพัฒนาสินค้า GI ที่ประสบความสำเร็จภายใต้นโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเน้น ‘สร้างมูลค่า ด้วยอัตลักษณ์ท้องถิ่น’
นอกจากนี้ สำหรับในปี 2569 มีแผนในการหาช่องทางการจำหน่ายและการขยายตลาดเพิ่มเติม โดยจะผลักดันสินค้ากุ้งก้ามกรามราชบุรีเข้าสู่ตลาด Modern Trade มากขึ้น รวมถึงการขยายตลาดในต่างประเทศ นอกเหนือจากประเทศจีน ไปยังสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น หรือเกาหลี เป็นต้น โดยความร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ที่มีทูตพาณิชย์ประจำอยู่กว่า 58 แห่งทั่วโลก เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดและสร้างรายเพิ่มให้ได้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และยังมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการในระดับภูมิภาค เพื่อให้สินค้า GI ของไทยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นต่อไป
