NETA ตั้งเป้าส่งมอบ NETA V ให้ลูกค้าคนไทย 10,000 คัน ปีนี้
NETA ตั้งเป้าส่งมอบ NETA V ให้ลูกค้าคนไทย 10,000 คัน ปีนี้
กรุงเทพฯ – 20 มกราคม 2566 : บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จ ากัด รายงานความคืบหน้า
แผนการด าเนินงานหลังเปิดแบรนด์ NETA อย่างเป็นทางการในประเทศไทย พร้อมเดินหน้า
แผนงานปี 2566 ตั้งเป้าส่งมอบ 10,000 คัน
มร. เป่า จ้วงเฟย (Mr. Bao Zhuangfei) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เนต้า ออโต้ (ไทยแลนด์) จ ากัด
เปิดเผยว่า “ปี 2565 เป็นปีแห่งความท้าทายส าหรับ NETA และเป็นปีแรกที่เราขยายธุรกิจออกนอก
ประเทศจีนซึ่งมีประเทศไทยเป็นเป้าหมายหลักของแผนงานเชิงกลยุทธ์ดังกล่าว โดยผลการดำเนินงานของ NETA ในประเทศจีนในปีที่ผ่านมา NETA มีอัตราการเติบโตของยอดการจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสูงถึง 118% ด้วยยอดส่งมอบรถให้กับลูกค้ารวม 152,073 คัน นับเป็นบริษัท สตาร์ทอัพ EV รายแรกของจีนที่มียอดขายมากกว่า 150,000 คันต่อปี” “ในส่วนของการด าเนินงานของ NETA ในประเทศไทย ถือว่าแบรนด์ NETA เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในประเทศอย่างรวดเร็ว ผมต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการด าเนินงานของ NETA ในประเทศไทยรวมทั้งลูกค้าคนไทยที่มั่นใจในผลิตภัณฑ์ของเรา ส าหรับในปี 2566 บริษัทฯ มั่นใจว่าตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศจะเติบโตขึ้นกว่า 100% จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐ รวมไปถึงทางเลือกที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นการมีสถานีชาร์จที่เข้าถึงง่ายและครอบคลุมหลายมากขึ้น ที่ส าคัญต้นทุนการใช้งาน หรือ Cost of Ownership ที่น่าดึงดูดใจกว่ารถยนต์ทั่วไปในท้องตลาด โดยคาดการณ์ตลาดรวมไว้ประมาณ 25,000 – 30,000 คัน ซึ่ง NETAตั้งเป้าส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้ลูกค้าคนไทย 10,000 คัน โดยจะเดินหน้าแผนงานในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งการแนะน าผลิตภัณฑ์ใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์พร้อมเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นเพื่อส่งมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟา้ในรูปแบบใหม่ และให้คนไทยสามารถเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ของยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้จะให้การสนับสนุนและร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งให้เกิดระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟา้ที่สมบูรณ์ในประเทศ รวมทั้งผลักดันในประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน” มร. เป่า จ้วงเฟย กล่าว ผลการด าเนินงานปี 2565
ลงนามกรมสรรพสามิตรับแพ็คเกจสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า NETA มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะบรรลุข้อตกลงเพื่อลงนามเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของภาครัฐ เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากมาตรการดังกล่าว โดย ได้ร่วมมือกับ บริษัท บางชันเยนเนอเรลเอเซมบลี จ ากัด หรือ BGAC ซึ่งมีประสบการณ์ในการประกอบรถยนต์ให้กับแบรนด์ต่างๆ มานานกว่า 50 ปี เข้าร่วมลงนามในข้อตกลงเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับกรมสรรพสามิต และพร้อมเดินหน้าโครงการประกอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่โรงงานประกอบรถยนต์บางชัน ในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน เขตคันนายาว
กรุงเทพฯ เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟา้ในประเทศ โดยจะเริ่มสายพานการผลิตได้ภายใน ปี 2567 เปิดตัว “NETA V” Touchable Smart EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยราคา 549,000 บาท*
สำหรับปี 2565 ที่ผ่านมา NETA ได้เปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการพร้อมแนะน า NETA V รถยนต์ิCity Car พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นรุ่นแรกสู่ตลาดเมืองไทย โดยมีราคาจัดจ าหน่ายอยู่ที่ 549,000ิบาท* ซึ่ง บริษัทฯ ต้องขอขอบคุณคนไทยที่ให้การต้อนรับแบรนด์NETA เป็นอย่างดี รวมไปถึงการให้การยอมรับ NETA V ในฐานะ Touchable Smart EV ท าให้มียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงส าหรับความล่าช้าในการส่งมอบ NETA V ให้กับ ลูกค้าของ NETA ทุกท่าน โดยปีที่ผ่านมาสามารถส่งมอบ NETA V ให้กับลูกค้าในประเทศไทย 989
ท่าน ทั้งนี้บริษัทฯ ตระหนักดีถึงความต้องการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟา้ของลูกค้า และมิได้นิ่งนอนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะด าเนินการอย่างสุดความสามารถในการเร่งส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ให้กับลูกค้าทุกท่านโดยเร็วที่สุดส่งมอบประสบการณ์การขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟา้ในรูปแบบใหม่ ปัจจุบัน NETA มีผู้จ าหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแล้ว 24 แห่ง ครอบคลุมในพื้นที่ กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ รวมไปถึงการเปิดให้บริการ NETA SPACE (เนต้า สเปช) ภายในพื้นที่ศูนย์การค้าเพื่อรองรับกับไลฟส์ ไตล์ของลูกค้า โดยวางเป้าหมาย ขยายเพิ่มเป็น 30 แห่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและรองรับจ านวนลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ ยังให้ความส าคัญกับการบริการหลังการขาย โดยมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน
ทั้งการฝกึ อบรมความพร้อมเจ้าหน้าที่ส าหรับดูแลลูกค้าอย่างมืออาชีพ การจัดเตรียมอะไหล่ส ารองให้
สามารถรองรับกับความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที รวมไปถึงการให้ค าแนะน าด้านผลิต และ
ความรู้พื้นฐานด้านการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟา้ พร้อมบริการช่วยเหลือลูกค้ากรณีฉุกเฉินผ่านNETA Call Center ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้ยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนสำหรับภูมิภาคอาเซียนนอกจากจะมีความส าคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมยานยนต์โลกแล้วยังสำคัญอย่างยิ่งต่อการด าเนินงานในระดับสากลของ NETA โดยบริษัทฯได้เริ่มแผนขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ภายใต้แผนกลยุทธ์ดังกล่าวประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกและรายใหญ่ที่สุดของอาเซียนอีกทั้งยังมีนโยบายการสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเป็นรูปธรรมถูกวางต าแหน่งให้เป็นศูนย์กลางของการดำเนินธุรกิจของNETA ในภูมิภาคนี้และพร้อมเดินหน้าขยายสู่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่อง โดย
ภายหลังจากการเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย NETA ได้ขยายการด าเนินงานไปยัง
ลาว พม่า ภูฏาน เนปาล รวมไปถึงอิสราเอล ก่อนจะขยายไปยังประเทศในตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ยอดขาย NETA ในจีน เติบโต 118%
มร. เป่า จ้วงเฟย กล่าวเสริมถึงผลการด าเนินงานใน NETA ในระดับสากลว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา NETA มีอัตราการเติบโตของยอดการจ าหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าสูงถึง 118% เมื่อเทียบกับปี 2564 โดยสามารถส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้ารวม 152,073 คัน ซึ่งในจำนวนดังกล่าวเป็นการส่งมอบให้กับลูกค้าในตลาดต่างประเทศ (นอกประเทศจีน) จำนวน 3,456 คัน โดย ปัจจุบัน NETA ได้ส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้าแล้ว 250,000 คัน โดยยอดขายในปี 2565 ที่ผ่านมาคิดเป็น 61% ของยอดขายรถยนต์ทั้งหมดของ NETA นับตั้งแต่เริ่มด าเนินธุรกิจ ซึ่งความส าเร็จในปีที่ผ่านมาเป็นผลลัพธ์จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของแบรนด์NETA ทั้งในด้านการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ด้านผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีด้านกลยุทธ์การขาย ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย รวมไปถึงแผนการขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก ท าให้แบรนด์ NETA เป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคทั่วโลก
ยอดการส่งมอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ในปี 2565 รวม 152,073 คัน แบ่งเป็นยอดการส่งมอบ
▪ NETA V จ านวน 98,847 คัน เติบโตขึน้ 99%
▪ NETA U จ านวน 51,021 คัน เติบโตขึน้ 155%
ในขณะที่ NETA S ได้ถูกส่งมอบถึงมือลูกค้าไปแล้วจ านวน 2,205 คัน (นับตั้งแต่เร่ิมการส่งมอบช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2565)
ทั้งนี้บริษัทฯ จะร่วมปฏิรูปการใช้พลังงานใหม่รวมไปถึงมีส่วนร่วมในการจัดท าห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟา้ของโลก เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟา้ 100% ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ NETA “Popularizer of Smart EV: สรรสร้างนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้”