ลอรีอัล กรุ๊ป เผยผลวิจัยใหม่เกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสีผิวและฮ อร์โมนที่มีต่อผิวพรรณและหนังศีรษะของผู้หญิง ในงานประชุมแพทย์ผิวหนังโลก WORLD CONGRESS OF DERMATOLOGY 

0

ลอรีอัล กรุ๊ป

เผยผลวิจัยใหม่เกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสีผิวและฮ

อร์โมนที่มีต่อผิวพรรณและหนังศีรษะของผู้หญิง

ในงานประชุมแพทย์ผิวหนังโลก

WORLD CONGRESS OF DERMATOLOGY

                      

สิงคโปร์, 19 กรกฎาคม 2566 – ลอรีอัล กรุ๊ป (L’Oréal) นำเสนอวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของการศึกษาเกี่ยวกับโรคผิวหนังพร้อมเผยผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพื่อสุขภาพของผิวพรรณในการประชุมแพทย์ผิวหนังโลก World Congress of Dermatology ครั้งที่ 25 หรือ WCD ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ การประชุม WCD ครั้งนี้มีแพทย์ผิวหนัง นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 11,000 คน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความก้าวหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการศึกษาโรคผิวหนังงานวิจัยชิ้นสำคัญจาก L’Oréal Dermatological Beauty L’Oréal Dermatological Beauty หรือแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางของลอรีอัล กรุ๊ป ได้เผยผลงานวิจัยระดับโลกด้านสุขภาพผิวพรรณ 2 งาน ซึ่งจัดทำโดยลา โรช-โพเซย์ (La Roche-Posay) และวิชี่ (Vichy) ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือลอรีอัล กรุ๊ป
 ลา โรช-โพเซย์ 1 ได้สำรวจกลุ่มคนจำนวน 48,000 คน ใน 34 ประเทศ ซึ่งเป็นการวิจัยครั้งใหญ่ที่สุดในหัวข้อนี้ที่เคยจัดทำขึ้น โดยสำรวจผลพบว่า 50% เผชิญกับภาวะผิดปกติของเม็ดสีผิว เช่น โรคด่างขาว,รอยดำที่เกิดขึ้นภายหลังผิวหนังอักเสบและฝ้า และเกือบ 1 ใน 3 (28%) ระบุว่าภาวะผิดปกติของเม็ดสีผิวมีผลกระทบที่รุนแรงต่อคุณภาพชีวิตของตนเองและ 44% ของผู้ที่มีภาวะผิดปกติของเม็ดสีระบุว่าตนเองต้องทำการปกปิดส่วนผิวหนังที่มีภาวะผิดปกติ

ด้วยความร่วมมือกับอิปซอส (Ipsos) ผู้เข้าร่วมสำรวจภาวะผิดปกติของเม็ดสีผิวด้วยตนเอง

                     
 วิชี่ได้สำรวจผู้หญิง 20,000 คน จาก 20 ประเทศ ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิง 72% รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนส่งผลกระทบด้านลบต่อสุขภาวะความเป็นอยู่ของตนเอง และผู้หญิงส่วนใหญ่ (3 ใน 4) ระบุว่าปัญหาผิวพรรณมักจะเกิดขึ้นหรืออาการเลวร้ายมากยิ่งขึ้นในช่วงที่มีประจำเดือน ลอรีอัล กรุ๊ป ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์กว่า 4,000 คน และผ่านการรับรองโดยแพทย์ผิวหนังมาเป็นเวลาหลายทศวรรษ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์
และบริการใหม่ ๆ ที่จะช่วยวินิจฉัย ป้องกันและจัดการกับภาวะผิดปกติของผิวหนังได้ดียิ่งขึ้นลอรีอัลได้นำนวัตกรรมเพื่อการปกป้องผิว การป้องกันแสงแดด การเปลี่ยนแปลงของสีผิวและความร่วงโรยของผิวพรรณ ซึ่งวางอยู่บนพื้นฐานของหลักการด้านความยั่งยืนและการยอมรับในความหลากหลายและแตกต่างมานำเสนอในการประชุมแพทย์ผิวหนังโลกครั้งนี้ นวัตกรรมส่วนผสมใหม่ และส่วนผสมพัฒนาจากหลักการวิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Sciences)
เม็กโซริล 400 (Mexoryl 400) ส่วนผสมสำคัญที่ได้รับการจดสิทธิบัตรแล้วในผลิตภัณฑ์กันแดดยูวีมูน 400 ของลา โรช-โพเซย์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีตัวแรกของลอรีอัลที่ปกป้องผิวจากรังสียูวีเอที่มีความยาวคลื่นสูง (ultra-long UVA) และป้องกันความเสียหายของผิวที่เกิดจากแสงแดดมลภาวะจากแสงแดด รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของยีนส์ที่สามารถนำไปสู่การเกิดมะเร็งผิวหนังโปร-ไซเลน (Pro-Xylane) โดยลอรีอัล ปารีส เป็นส่วนผสมที่มีสารออกฤทธิ์ตัวแรกที่พัฒนามาจากวิทยาศาสตร์เพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งผลิตจากน้ำตาลธรรมชาติที่พบในต้นบีช โปร-ไซเลนได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว และโมเลกุลโปร-ไซเลนก็ได้รับการจดสิทธิบัตรและเป็นส่วนผสมเพื่อการชะลอวัยที่เป็นเลิศของลอรีอัลมาเดคาสโซไซด์ (Madecassoside) ส่วนผสมในโบม ซีคาพลาสต์ บี5 ของลา โรช-โพเซย์ (Baume Cicaplast B5 by La Roche-Posay) ผลิตมาจากใบของต้นบัวบกน้ำ และเอธานอลจากอ้อย สารสกัดจากใบบัวบกนี้ขึ้นชื่อว่ามีคุณสมบัติช่วยปลอบประโลมและต่อต้านการอักเสบ และช่วยรักษาผิว

ลอรีอัล กรุ๊ป มีส่วนร่วมในการประชุมประชุมแพทย์ผิวหนังโลกพร้อมกับนำเสนอข้อมูลเชิงลึกใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับความกังวลในเรื่องผิวพรรณจากทั่วโลกเพื่อเติมเต็มและงานที่มีความสำคัญของชุมชนศาสตร์ของโรคผิวหนัง
และด้วยการวิจัยที่ครอบคลุม การคิดค้นนวัตกรรมและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นในด้านเทคโนโลยี ทำให้ลอรีอัล
กรุ๊ปสามารถจัดการกับความกังวลเรื่องผิวและผมที่เป็นปัญหาเร่งด่วนที่สุดของผู้คนได้ไม่ว่าจะเป็นการเกิดจุดด่างดำไปจนถึงการป้องกันแสงแดด ปัญหาสิว ผิวแห้ง และอื่น ๆ จึงทำให้ผู้คนมีความสุขกับผิวที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้
“ด้วยความร่วมมือกับกลุ่มแพทย์ผิวหนัง เรากำลังยกระดับสุขภาพผิวให้กับทุก ๆ คนท่ามกลางความหลากหลายที่ไม่มีขีดจำกัด และด้วยการช่วยเพิ่มความรู้ทางวิทยาศาสตร์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ยั่งยืน และบริการที่ดีขึ้น รวมทั้งสนับสนุนผู้คนที่ต้องการความช่วยเหลือเราจึงช่วยขยายช่องทางในการเข้าถึงสุขภาพผิวพรรณไปยังผู้คนทั่วทั้งโลกใบนี้ได้มากกว่าที่เคย” มิเรียม โคเฮน-เวลกรีน (Myriam Cohen-Welgryn) ประธานแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอางระดับโลก ลอรีอัล กรุ๊ป กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *