พานาโซนิค เอเนอร์จี และมาสด้า ร่วมมือพัฒนาแบตเตอรี่ใหม่ สำหรับยนตรกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคตจากมาสด้า

0

พานาโซนิค เอเนอร์จี และมาสด้า ร่วมมือพัฒนาแบตเตอรี่ใหม่
สำหรับยนตรกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคตจากมาสด้า
เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการขยายฐานการผลิตแบตเตอรี่ในประเทศญี่ปุ่นและเร่งการนำมาใช้กับรถอีวี

โอซาก้า และ ฮิโรชิม่า ประเทศญี่ปุ่น, 6 กันยายน 2567 – บริษัท พานาโซนิค เอเนอร์จี จำกัด
ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มพานาโซนิค และ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ได้ออกประกาศในวันนี้ว่า ทั้งสองบริษัทได้เตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ชนิดรูปทรงกระบอกสำหรับยนตรกรรมแห่งอนาคตในเจเนอเรชั่นถัดไป ซึ่งคาดว่าจะติดตั้งในยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคตของมาสด้า (BEVs) โดยมีกำหนดเปิดตัวนับตั้งแต่ปี
2027 เป็นต้นไป ซึ่งการประกาศในครั้งนี้เป็นไปตามข้อตกลงของความร่วมมือก่อนหน้านี้และสะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่อความร่วมมือในระยะกลางถึงระยะยาวของทั้งสองบริษัท ทั้งนี้ กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่นได้อนุมัติโครงการความร่วมของทั้งสองบริษัทในการขยายกำลังการผลิตแบตเตอรี่และการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นที่เรียบร้อยแล้วในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างแหล่งผลิตแบตเตอรี่ที่มั่นคงและยั่งยืนในอนาคต

มร. มาซาฮิโระ โมโร่, ประธานและซีอีโอ มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (ซ้าย)
และ มร. คาซูโอะ ทาดาโนบุ, ประธานและซีอีโอ บริษัท พานาโซนิค เอเนอร์จี จำกัด

เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ระยะกลาง Sustainable Zoom-Zoom 2030 เพื่อโลกของเราที่ยังคงความสวยงามตลอดไป เพื่อคุณภาพชีวิตของผู้คนให้มีความสุขยิ่งขึ้นและเพื่อสังคมที่น่าอยู่ตลอดไปมาสด้าได้แบ่งแผนงานการพัฒนาการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าออกเป็นสามเฟส เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงตามกลไกของตลาดและความต้องการของลูกค้า ซึ่งภายในปี 2027 มาสด้าวางแผนเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ (BEVs)
ที่พัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์ม EV ที่ออกแบบเฉพาะขึ้นเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ บริษัท พาโนโซนิค เอเนอร์จี จำกัด ตั้งเป้าที่จะเพิ่มกำลังการผลิตและมีแผนที่จะผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดรูปทรงกระบอกขึ้นที่โรงงาน ซูมิโนเอะ และ คาอิซูกะ ในเมืองโอซาก้า เริ่มตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป
โดยแบตเตอรี่เหล่านี้จะถูกบรรจุเป็นโมดูลโดยมาสด้า และสำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ พานาโซนิค เอเนอร์จี ได้วางกำลังการผลิตในประเทศญี่ปุ่นที่ 10GWh ต่อปี ภายในปี 2030
ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดให้แบตเตอรี่สำหรับเก็บพลังงานไฟฟ้าเป็นทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050และกำลังมุ่งหน้าขยายห่วงโซ่อุปทานของแบตเตอรี่ภายในประเทศ รวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรม ด้วยเหตุนี้ จากความร่วมมือระหว่างมาสด้าและพานาโซนิค เอเนอร์จี ในครั้งนี้ จึงถือเป็นการช่วยเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทานแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ชนิดรูปทรงกระบอกในประเทศ
พร้อมทั้งขยายและเสริมสร้างฐานการผลิตของญี่ปุ่นอีกด้วย โดยทั้งสองบริษัทจะยังคงร่วมมือกันต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาทางสังคม เช่น การบรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกร้อน การส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนในภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และแบตเตอรี่ การสนับสนุนการจ้างงานในท้องถิ่นและการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร
มร. คาซูโอะ ทาดาโนบุ ประธานและซีอีโอ บริษัท พานาโซนิค เอเนอร์จี จำกัด กล่าวว่า
“ด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ เรามีแนวโน้มที่จะขับเคลื่อนการขยายกำลังการผลิต BEVs และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ของญี่ปุ่น ซึ่งเป้าหมายสูงสุดของเราคือการสร้างสังคมที่ยั่งยืน และเรามุ่งมั่นที่จะบรรลุพันธกิจนี้”
มร. มาซาฮิโระ โมโร่ ประธานและซีอีโอของมาสด้า กล่าวเสริมว่า
“มาสด้ามุ่งมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนและกำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานไฟฟ้าด้วยแนวทางที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการและวิถีชีวิตของลูกค้าเราจะใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง มีประสิทธิภาพดี และปลอดภัย ซึ่งจัดหาโดยพานาโซนิค เอเนอร์จี และนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าของมาสด้าที่เอกลักษณ์และมีความสมดุลระหว่างการออกแบบ ความสะดวกสบายและระยะทางในการขับขี่เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าของเรา”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *