คปภ. เปิดสำนักงานแห่งใหม่ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมา พร้อมนำเทคโนโลยีทันสมัยบริการประชาชนด้านการประกันภัยอย่างครบวงจร
คปภ. เปิดสำนักงานแห่งใหม่ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมา
พร้อมนำเทคโนโลยีทันสมัยบริการประชาชนด้านการประกันภัยอย่างครบวงจร
เมื่อวันที่ 27 กันยายน
2566 ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิ
การ คปภ.) เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารที่ทำการ สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ.
จังหวัดนครราชสีมา แห่งใหม่ โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
กล่าวต้อนรับ และมีนายสรายุทธ อุดมพร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครราชสีมา พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ
หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ตลอดจนสื่อมวลชนร่วมงานและแสดงความยินดี
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่าเหตุที่มีการย้ายสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ.
จังหวัดนครราชสีมา มายังที่ทำการแห่งใหม่ เนื่องจากอาคารเดิมเป็นอาคารเช่า มีความชำรุด สภาพไม่พร้อมในการปฏิบัติหน้าที่
จึงได้มอบนโยบายให้ไปหาที่ทำการแห่งใหม่ จนทำให้สามารถไปจัดซื้ออาคารเพื่อเป็นที่ทำการแห่งใหม่ เป็นอาคาร 3
ชั้นครึ่งพร้อมที่ดิน มีเนื้อที่ใช้สอย 473 ตารางเมตร ซึ่งเพียงพอและเหมาะสมสำหรับการปฏิบัติงานที่เป็นสัดส่วน
จึงได้มีการปรับปรุงพื้นที่เป็นที่ทำการแห่งใหม่ ซึ่งมีห้องพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ ห้องไกล่เกลี่ยข้อพิพาท
ศูนย์สอบนายหน้าประกันภัย และห้องประชุม ทั้งนี้ เพื่อรองรับข้อพิพาทด้านประกันภัย ตลอดจนภารกิจของสำนักงานฯ
และการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมประกันภัย
เพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวกในการให้บริการประชาชนผู้เอาประกันภัย และผู้มีส่วนได้เสีย
รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่มาติดต่อขอรับบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
และมีมาตรฐานในการให้บริการมากยิ่งขึ้น
ในการปฏิบัติงานของสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมา แห่งใหม่นี้
จะนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ มีระบบฐานข้อมูลด้านการประกันภัย
โดยสำนักงาน คปภ. ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กรมการปกครอง
กรมการขนส่งทางบก สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำอันจะเป็นประโยชน์และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นการเพิ่มศักยภาพของพนักงาน ลดต้นทุนและลดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน
เพื่อให้ผู้ใช้บริการมีความพึงพอใจมากขึ้น อันจะสร้างความเชื่อมั่นในระบบประกันภัยและภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร
สำหรับข้อมูลธุรกิจประกันภัยของจังหวัดภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา)
พบว่าในปี 2565 มีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 40,364.46 ล้านบาท แบ่งเป็นประกันชีวิต 27,456.10 ล้านบาท
เบี้ยประกันวินาศภัย 12,908.36 ล้านบาท อัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตและอัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันวินาศภัยต่อประชากรของสำนักงาน คปภ.จังหวัดภายใต้การกำกับอยู่ที่ร้อยละ 26.52 และร้อยละ 31.99 ตามลำดับ และอัตราการขยายตัวของธุรกิจประกันภัยภายใต้การกำกับของสำนักงาน คปภ.ภาค 4 (นครราชสีมา) ปี 2565
มีการขยายตัวเพิ่มจากปี 2564 กว่าร้อยละ 5.87 ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ในส่วนของจังหวัดนครราชสีมา ปี 2565 มีเบี้ยประกันภัยรับรวมกว่า 16,895.55 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 9.26 เมื่อเทียบกับปี 2564 แบ่งออกเป็นเบี้ยประกันชีวิตกว่า 11,511.75 ล้านบาท เบี้ยประกันวินาศภัยกว่า 5,383.80 ล้านบาท
อัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตและอัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันวินาศภัย อยู่ที่ร้อยละ 25.97 และร้อยละ
33.53 มีสาขาบริษัท สำนักงานตัวแทนและนายหน้าประกันภัย 72 แห่ง มีตัวแทนและนายหน้าประกันภัยบุคคลธรรมดา
จำนวน 27,921 ราย มีธนาคารพาณิชย์ 204 แห่ง จะเห็นได้ว่าภาพรวมของธุรกิจประกันภัยจังหวัดนครราชสีมา
มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะเกิดสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมจะชะลอตัวอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 แต่ธุรกิจประกันภัยมีบทบาทสำคัญและช่วยเสริมศักยภาพรวมถึงเพิ่มขีดความสามารถให้กับภาคอุตสาหกรรม
ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการ รวมทั้งสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพของประชาชนได้อย่างยั่งยืน
ด้านนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำนักงาน คปภ.
ถือเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญอย่างยิ่งในการกำกับ ส่งเสริมพัฒนาธุรกิจประกันภัยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
และคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยให้กับประชาชน ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน คปภ.
ที่ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนผู้ประสบภัยกรณีเกิดอุบัติภัยรายใหญ่
รวมทั้งเป็นศูนย์กลางในการติดตามการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงทีและเป็นธรรม
ตลอดจนผลักดันให้ระบบประกันภัยเข้าไปบริหารความเสี่ยงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยโดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใ
หม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกระดับ
ให้สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากระบบประกันภัยได้อย่างทั่วถึง เช่น โครงการประกันภัยข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
โครงการ 1 ภาค 1 ผลิตภัณฑ์ (การประกันอัคคีภัยสำหรับศาสนสถาน) จึงเชื่อว่าการเปิดสำนักงาน คปภ. ภาค 4
(นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมาแห่งใหม่และเพิ่มขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีให้สำนักงานแห่งนี้จะช่วยให้การติดตามบริษัทประกันภัยให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ประสบภัยได้อย่างรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนได้มากขึ้นรวมทั้งส่งผลในการพัฒนาจังหวัดนครราชสีมาได้อย่างดียิ่ง
“การเปิดที่ทำการใหม่ของสำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครราชสีมา
และการนำเครื่องมือทางเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
ผู้เอาประกันภัย และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ได้รับบริการที่ดีและสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนผู้ใช้บริการด้านการประกันภัย รวมทั้งพนักงานผู้ปฏิบัติงานในสังกัดจะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งผมได้มอบนโยบายการดำเนินงานเชิงรุก โดยให้สำนักงาน คปภ. ให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการประชาชน
ทั้งในด้านการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการประกันภัยที่ถูกต้อง
รวมทั้งการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัย เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม
ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นและศรัทธาในระบบประกันภัยยิ่งขึ้น” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย